ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเทศกาล

ค่ำวานนี้ (6 มิถุนายน 2555) ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายชุมพล  ศิลปอาชา  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานเลี้ยงต้อนรับคณะผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมายังประเทศไทยในฐานะผู้ซื้อ (Buyers) และผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในฐานะผู้ขาย (Sellers)  ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว  โรงแรม  รีสอร์ท  สายการบิน  สนามกอล์ฟ   สปา  และสถานบันเทิง เป็นต้น ในโอกาสที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมงาน  Thailand Travel Mart Plus the Greater Mekong Subregion 2012 (TTM+ 2012)  โดยมีผู้บริหารจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

งาน TTM+ 2012 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 8  มิถุนายน 2555  ณ  Exhibition Center Hall 5 - 6  อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเพิ่มศักยภาพการขายแหล่งท่องเที่ยวและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยในตลาดต่างประเทศ โดยจัดรูปแบบเวทีเจรจาธุรกิจท่องเที่ยวในระดับนานาชาติเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคเอกชนไทยร่วมแข่งขันในเวทีสากล ภายใต้แนวคิด Customize your experience   โดยปีนี้ ททท. เน้นไปที่การดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนิชมาร์เก็ต 4 กลุ่มหลัก ได้แก่  Golf   Wedding & Honeymoon   Health & Wellness และ  Ecotourism  โดยเชิญ Buyers จากกว่า 50 ประเทศ รวมกว่า 330 ราย ครอบคลุมกลุ่มตลาดหลัก รวมไปถึงกลุ่มตลาดท่องเที่ยวรายใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ ละตินอเมริกา  ยุโรปตะวันออก และคาบสมุทรบอลติก เข้าร่วมงาน   ททท. ในฐานะผู้จัดงานจึงได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว  โรงแรม  รีสอร์ท  สายการบิน  สนามกอล์ฟ   สปา  และสถานบันเทิง เป็นต้น เข้าร่วมงานในฐานะผู้ขาย (Sellers) โดยปีนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมงานเพื่อเสนอศักยภาพด้านสินค้าและบริการท่องเที่ยว มากถึง 420 บูธ รวมกว่า 380 หน่วยงาน   นอกจากนี้  ททท. ยังได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวจากประเทศภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงจำนวน 6 ประเทศ ได้แก่  พม่า  ลาว  เวียดนาม  กัมพูชา  จีน และ ภูฏาน ร่วมเสนอสินค้าท่องเที่ยวในงาน เพื่อสร้างการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงในภูมิภาคอีกด้วย 

ททท. คาดว่า  ผลสำเร็จของการจัดงาน จะสร้างศักยภาพความเป็นศูนย์กลาง (Hub) ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย ไปสู่ประเทศต่างๆในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion - GMS)  และช่วยย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะของแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย  ให้อยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งจากตลาดระยะใกล้และระยะไกลอย่างต่อเนื่อง