ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเทศกาล

ททท. นำเสนอทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2557

          เย็นวันนี้ (8 กรกฎาคม 2556) นายสมศักย์  ภูรีศรีศักดิ์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ให้เกียรติเป็นประธานรับทราบถึง ทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาดการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี 2557   โดยมีนายสุรพล  เศวตเศรนี  ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  และรองผู้ว่าการ ททท. แต่ละด้าน ร่วมกันนำเสนอ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

          การประชุมแผนการท่องเที่ยวประจำปีของ ททท. ในปีนี้นับเป็นปีที่ 33 จัดทำขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์จากพันธมิตรสาขาต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ หารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องแล้วนำมากำหนดเป็นทิศทางในการขับเคลื่อน โดยตอบโจทย์ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ กระบวนการทำแผนการท่องเที่ยวปี 2557 นั้น เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ต่อเนื่อง จนมาถึงการกำหนดแผนปฏิบัติการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 - 5 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา

          ททท. ได้นำปัจจัยสำคัญมาประกอบในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาดการท่องเที่ยวปี 2557 ประกอบด้วย 1. การขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของตลาดใหม่ อาทิ ตลาดจีน อินเดีย และรัสเซีย 2. การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) 3. สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมทั้งสถานะของตลาดอิ่มตัวของตลาดหลัก 4. การพัฒนาด้านการคมนาคม ประกอบกับเป้าหมายการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ททท. จึงได้กำหนดเป้าหมายหลักที่จะต้องไปให้ถึงใน 2 ส่วนควบคู่กันไป คือ

          1. ต้องบรรลุเป้าหมายนำรายได้เข้าประเทศให้ได้ 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558 ซึ่งเป็นภารกิจ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2556 – 2558  

          2. ต้องปรับสมดุลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกมิติ ทั้งด้านตลาด พื้นที่ ฤดูกาล คุณค่า และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างยั่งยืน

          ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น ในปี 2557 นี้ จึงได้สานต่อแนวคิด  รายได้ก้าวกระโดด ด้วยวิถีไทย หรือ Higher Revenue through Thainess ต่อเนื่องจากปี 2556 โดยใช้แนวคิดการทำการตลาดแบบ Marketing 3.0 เน้นส่งมอบคุณค่า (Value) หรือ ความสุขในการเดินทางท่องเที่ยวที่เกิดจากการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม (Co-creation)  ซึ่งจะสร้างความประทับใจจนกระทั่งเกิดการแบ่งปันและบอกต่อ (Share)  ทั้งนี้ ในการดำเนินงานปีที่ผ่านมา ได้สร้างความตื่นตัวให้กับคู่ค้าในตลาดต่างประเทศอย่างมาก ที่เห็นถึงศักยภาพในการนำวิถี

ไทยมานำเสนอเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ได้  ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและทำให้ไทยแตกต่างจากประเทศอื่นใน AEC อันจะนำมาซึ่งการเติบโตและรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระยะยาว

          นอกจากนี้ การส่งมอบความสุขแทนเรื่องของความคุ้มค่าเงิน (Value for Money) นั้น จะช่วยให้ไทยหลุดจากภาพลักษณ์จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวราคาถูก และเพิ่มระดับการรับรู้ประเทศไทยในการเป็น Quality Destination โดยความสุขที่จะส่งมอบในปีนี้ จะส่งผ่านกิจกรรม Thai Experience, Thai Way of Life และ Thai Cultures ที่สอดแทรกอยู่ในสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วมและแบ่งปัน เป็นการยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทย  โดยนำเสนอภาพลักษณ์ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่มี คุณภาพพร้อม ประสบการณ์ชีวิตและ ความสุขด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทยและวิถีไทย  โดยสื่อสารผ่านแคมเปญ “Amazing Thailand” สร้างการรับรู้ภายใต้แนวคิด Happiness you can share นำเสนอประสบการณ์และความสุขที่นักท่องเที่ยวจะได้รับ และพร้อมแบ่งปันให้กับผู้อื่น ทั้งคนใกล้ชิด และคนทั่วโลก โดยเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่ที่เข้าถึงเป้าหมายทั้งในระดับ Regional และระดับ Global เพื่อสร้างการสรับรู้ ภายใต้ความเป็นไทย (Thainess)

          สำหรับการตั้งเป้าหมายในมิติเศรษฐกิจนั้น แบ่งเป็น เป้าหมายรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 และ รายได้หมุนเวียนในประเทศจากนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ทั้งนี้จะมีการปรับสมดุลเชิงการตลาดจากตลาด Mass ให้เข้าสู่ตลาดคุณภาพในทุกตลาดทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงระดับกลาง-บน และนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ หรือ Niche Market ได้แก่ กลุ่ม Wedding & Honeymoon  กลุ่มที่เดินทางเข้ามารักษาพยาบาล (Medical) และ กลุ่ม Golf กลุ่ม Health & Wellness และกลุ่ม Green หรือ Eco-tourists  นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้เกิดการกระจายการเดินทางไปยังภูมิภาค และเชื่อมโยงภายในประเทศในกลุ่ม AEC โดยไทยเป็นศูนย์กลาง

          ด้านการดำเนินงานตลาดในประเทศ ททท. จะใช้ 3 กลยุทธ์หลักเพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย คือ     1.  สร้างกระแสหลงรักประเทศไทย   2.  สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ 3.  สร้างและแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว  ผ่านโครงการเด่น ๆ ตลอดปี ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 500 โครงการ เพื่อให้คนไทยสามารถท่องเที่ยวไปได้ทุกเดือน รวมทั้งเพิ่มปริมาณความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดแนวคิดทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ “Dream Tourism” ที่ดึงชีวิตในแบบที่คุณฝันออกมาใช้ในการท่องเที่ยว กระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางไปใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจฝันอยากจะไป โดยในปีนี้ ททท.จะนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวกลุ่มแรก “Dream destinations” กาลครั้งหนึ่ง..ต้องไป แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสุดยอดของความงามดั่งฝัน ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตหากได้ไปสัมผัสแล้วคุณจะต้องรู้สึก..หลงรักอย่างแน่นอน ซึ่งสอดรับกับแคมเปญการสื่อสารตลาดในประเทศ  คือ แคมเปญ “หลงรักประเทศไทย  เพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ควบคู่กับการปรับปรุงการให้บริการข้อมูลข่าวสารให้เข้าถึงผู้ใช้มากขึ้นและให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการได้รับทราบข้อมูลการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ฯลฯ 

           ทั้งนี้ จากแผนการดำเนินงานด้านการตลาดการท่องเที่ยว ในปี 2557 หากสถานการณ์ในประเทศและปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เป็นปกติ ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาเยือนประเทศไทยประมาณ 28.01 ล้านคน คิดเป็นเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 7.28 ประมาณการด้านรายได้ของตลาดต่างประเทศ 1.32 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 13 และสำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยเป้าหมายด้านรายได้ประมาณ 7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 9 และคาดว่าจะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 136 ล้านคน-ครั้ง คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.63

แสดงผล 1079 ครั้ง