ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวอื่นๆ

กองตลาดเอเชียตะวันออก  ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. ร่วมกับ สำนักงาน ททท. ต่างประเทศทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ (สำนักงานปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กว่างโจว และเฉิงตู) จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Health & Wellness Product Testing plus Virtual Trade Meet 2022” ในวันที่ 18 - 22 เมษายน 2565 ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรปราการ โดยเชิญผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ผู้แทนจากแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวที่ขายแพคเกจท่องเที่ยวด้านสุขภาพและความงาม และ KOL ชาวจีนที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน รวม 12 ราย อาทิ Fliggy – Alibaba, KKday, K.T.C.C Co.,Ltd, Asian Trails, JTB (Thailand) Ltd, I Asia Thailand co.,ltd, Feelgood Holiday Co., Ltd. , S.E.A. DMC (THAILAND) Co., Ltd., Travel Thailand Creation และ Wellness Travel Thailand  เป็นต้น

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม ได้แก่
1. กิจกรรมเดินทางสำรวจเส้นทางและสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวด้านสุขภาพและความงามของประเทศไทย ในวันที่ 18-21 เมษายน 2565 ณ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาทิ สปา การทดสอบนวดเพื่อสุขภาพ  สาธิตการทำอาหารเพื่อสุขภาพ การทำขนมไทย ฯลฯ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางและโอกาสในการขายสินค้าและบริการในการท่องเที่ยวว่า พื้นที่หัวหินและชะอำถือเป็นพื้นที่ศักยภาพที่สามารถดึงดูดให้เกิดการเดินทางได้ แม้ว่าจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางยาวนานเล็กน้อย (อย่างน้อย 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ) แต่ความหลากหลายของสินค้าและบริการจะเป็นจุดเด่นให้สามารถขายแพคเกจได้ โดยคาดว่าการขายแพคเกจพื้นที่หัวหินและชะอำจะเป็นรูปแบบการขายในลักษณะพ่วงขาย อาทิ โรงแรมที่พัก+บริการรถรับส่ง+แพคเกจสุขภาพ  โรงแรมที่พัก+กิจกรรม Half Day Workshop เป็นต้น 

2. กิจกรรมการเจรจาธุรกิจออนไลน์แบบนัดหมายล่วงหน้าในลักษณะ Virtual Trade Meet ระหว่างผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวจากตลาดจีน (Buyer) และผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทย (Seller) ในวันที่ 22 เมษายน 2565  โดยเปิดโอกาสให้ Seller จำนวน 34 ราย ได้แก่ โรงแรมที่พัก 16 ราย โรงพยาบาลและศูนย์ Wellness Center 12 ราย และบริษัทนำเที่ยว (DMC) 6 ราย เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับ Buyer จำนวน 44 ราย เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวตลาดจีนกลุ่ม Health & Wellness เพราะถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยผลการเจรจาธุรกิจมีการประชุมที่เกิดขึ้นจริง (Successful Appointment) จำนวน 304 Appointment (คิดเป็นร้อยละ 83.29) และผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 93.65 โดยความเห็นส่วนใหญ่ได้เจรจากับกลุ่มเป้าหมายที่ตนเองสนใจ และรายใหม่ ๆ  รวมถึงได้รับข้อมูลธุรกิจเกี่ยวการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามของคู่ค้าอย่างละเอียด 

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ สอดคล้องตามที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ครั้งที่ 1/2565 มีมติเห็นชอบในหลักการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox ที่ ททท. จะใช้พื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.ชะอำ เป็นพื้นที่นำร่องที่จะช่วยส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ และจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในแนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หลังจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ประสบความสำเร็จอย่างมาก