ททท. ลุยโปรโมตท่องเที่ยวไทยในงาน WTM 2024 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ยกเสน่ห์ Thai Craft เชื่อมโยงประสบการณ์ทรงคุณค่า พร้อมตอกย้ำหมุดหมายการท่องเที่ยวยั่งยืน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย 42 ราย ร่วมงาน World Travel Market (WTM) 2024 วันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2567 ณ Excel London กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โชว์ศักยภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และนำเสนอ Soft Power ผ้าไทยและงานฝีมือ ตามแนวคิด 5 Must Do in Thailand พร้อมเชื่อมโยงสู่เส้นทางท่องเที่ยว Thai Craft Destination เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตอกย้ำคุณค่าของการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยตลอดทั้งปี
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน World Travel Market (WTM) เป็นหนึ่งในงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลก และมีความสำคัญที่สุดในตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร โดยในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 43 ที่ประเทศไทยเข้าร่วมงาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. จึงตั้งเป้าหมายให้ WTM 2024 เป็นเวทีที่สะท้อนศักยภาพของการท่องเที่ยวไทยในระดับโลก สร้างโอกาสในการนำเสนอขายแก่ผู้ประกอบการไทยด้วยเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการซื้อขายทางธุรกิจอย่างทันที สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการและร่วมกันพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกและสร้างรายได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมอย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นแรงส่งที่จะช่วยผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทย 39 ล้านคนในปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน WTM ในปีนี้ ททท. นำทัพผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย จำนวน 42 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมรีสอร์ต จำนวน 32 ราย และ DMC จำนวน 10 ราย จากกรุงเทพฯ 8 ราย, พัทยา ชลบุรี 1 ราย และพระนครศรีอยุธยา 1 ราย โดยแบ่งเป็นผู้เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก 6 ราย และผู้ที่เคยเข้าร่วมงานแล้ว 36 ราย ในสัดส่วนนี้เป็นผู้ประกอบการไทยที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Award จำนวน 4 ราย, โครงการ STAR จำนวน 23 ราย และ CF Hotels จำนวน 2 ราย ร่วมนำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย และพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยวจากทั่วโลกที่มาร่วมงาน พร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรอื่น ๆ จัดบูธประชาสัมพันธ์และนำเสนอขายสินค้าการท่องเที่ยวภายในพื้นที่คูหาประเทศไทย ได้แก่ Bangkok Airways, Thai Airways, TPC และการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่ง ททท. คาดการณ์ว่าจะเกิดการจัดหมายทางธุรกิจ ไม่ต่ำกว่า 950 นัดหมาย และสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 898 ล้านบาท
สำหรับคูหาประเทศไทย ททท. สร้างสรรค์ด้วยแนวคิด “IGNITE Thailand : Soft Power & Sustainability” โดยให้น้ำหนักไปที่การนำเสนอนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ควบคู่กับอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่าน “เสน่ห์ไทย” เมืองน่าเที่ยว และแนวคิด 5 Must Do in Thailand รวมทั้งแนวทางการท่องเที่ยว
อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวไทย ภายในคูหาประเทศไทยออกแบบและตกแต่งด้วยโทนสีของผืนผ้าที่มาจากธรรมชาติ รวมทั้งงานคราฟต์จักสานจากภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อสะท้อนเสน่ห์และอัตลักษณ์ไทยผ่านสีสัน ศิลปะ แฟชั่น และงานคราฟท์จากภูมิภาค ต่าง ๆ พร้อมทั้งนำเสนอ Highlight Product ที่น่าสนใจในโซน Thai Craft Destination Showcase ที่มาพร้อมคอนเซปต์ Colour Your Travel : Craft Tone Experience ให้เฉดสีของผ้าไทยเป็นตัวแทนเรื่องราวนำไปสู่การค้นหาประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว โดยคัดเลือกผลิตภัณฑ์ผ้าทอทำมือจาก 6 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ สุโขทัย สกลนคร และเลย มาจัดแสดงภายในคูหาฯ พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยว 5 Routes Ignite Thai Craft ได้แก่ สงขลา-ปัตตานี, เชียงใหม่, พระนครศรีอยุธยา, ขอนแก่น และกรุงเทพฯ เชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์จริงในพื้นที่ต้นกำเนิดวัตถุดิบ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเป็น 5 Must do in Thailand (Must Buy) นำมาสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน และส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายแก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็น Your Stories Never End ที่สร้างความประทับใจอย่างไม่รู้จบแก่นักท่องเที่ยว
ในโอกาสนี้ ททท. ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงาน เพื่อเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยและพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน พร้อมกันนี้ ยังทรงสาธิตการออกแบบตกแต่งตุ๊กตาหมี TEDDY HOUSE ด้วยเครื่องแต่งกายชุดผ้าไทยหลายรูปแบบ ได้แก่ ชุดผ้าบาติก ชุดช้าง ชุดมวยไทย ชุดลอยกระทง ซึ่งถือเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าแก่ผ้าไทยในอีกรูปแบบหนึ่ง ณ คูหาประเทศไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลที่มีคุณภาพและมีอัตราการเดินทางมายังประเทศไทยสูง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จำนวน 739,837 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง หรือ FIT ถึงร้อยละ 94 และรูปแบบทัวร์ ร้อยละ 6 รวมทั้งเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกถึงร้อยละ 58 โดยมีระยะเวลาพำนักนานประมาณ 18.3 วัน และมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อทริปสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 64,488 บาทต่อคนต่อทริป นิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และเยี่ยมญาติ ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพมหานคร สุราษฏร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ทั้งยังมีความสนใจเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจชุมชน ทำให้เป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ทั้งนี้ คาดว่าตลอด ทั้งปี 2567 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าไทยทั้งสิ้น 980,887 คน และสร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 83,810 ล้านบาท และ ททท. จะเดินหน้าต่อเนื่องเพื่อผลักดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลในปี 2568 ที่ 11 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายรวมอยู่ที่ 40 ล้านคน
แสดงผล 300 ครั้ง