ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเศรษฐกิจ

ตลาดแดนภารตะส่งสัญญาณบวก! ททท. จับมือ สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางอัมริตสาร์-กรุงเทพฯ เดินหน้าบูสต์อินเดียเที่ยวไทย 2 ล้านคนตามเป้าหมาย

เช้านี้ (29 ตุลาคม 2567) นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนางสาวแพรวรำไพ แสงทอง ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ พร้อมคณะผู้บริหาร ททท. และสายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ ร่วมกันให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เที่ยวบิน SL215 บินตรงจาก ท่าอากาศยานนานาชาติศรีคุรุรามทัศชี เมืองอัมริตสาร์ สาธารณรัฐอินเดีย ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ดอนเมือง ในเวลา 6.15 น. ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ-อัมริตสาร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ด้วยความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ หวังเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนโอกาสด้านการบิน ผลักดันนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทยตามเป้าหมาย 2 ล้านคนในปี 67

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า เที่ยวบิน SL215 ถือเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในเส้นทางบินตรงอัมริตสาร์-กรุงเทพฯ ที่สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ขยายเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางและรองรับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงไฮซีซั่น โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ บินตรงพร้อมด้วยผู้โดยสาร 189 ที่นั่ง จากท่าอากาศยานนานาชาติศรีคุรุรามทัศชี เมืองอัมริตสาร์ สาธารณรัฐอินเดีย ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ดอนเมือง ในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 โดย ททท. และ สายการบินไทย      ไลอ้อน แอร์ ได้เตรียมพร้อมกิจกรรมการต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ มอบของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวเพื่อแสดงมิตรไมตรีและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยครั้งนี้ด้วย

สำหรับเส้นทางบินดังกล่าว สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ เส้นทางบินขาไปกรุงเทพฯ-อัมริตสาร์ ออกเดินทางท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ดอนเมือง ด้วยเที่ยวบิน SL214 ในเวลา 20.10 น. ระยะเวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง และเดินทางถึงเมืองอัมริตสาร์ สาธารณรัฐอินเดีย ในเวลา 23.25 น. ขณะที่เส้นทางบินขาเข้า อัมริตสาร์- กรุงเทพฯ จะออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน SL215 จากเมืองอัมริตสาร์ สาธารณรัฐอินเดีย ในเวลา 00.25 น. และเดินทางถึงปลายทางท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ดอนเมือง ในเวลา 06.15 น. ซึ่งมีความถี่ทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (อังคาร พุธ ศุกร์ อาทิตย์) ความจุ 189 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน     รวมสัปดาห์ละ 756 ที่นั่งและจะเริ่มบินตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นตลาดที่มีแนวโน้มสดใส และเป็นตลาดที่มีนัยสำคัญต่ออัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวภาพรวมเป็นอย่างมาก โดยอินเดียเป็นหนึ่งใน TOP 5 ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 20 ตุลาคม 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทยแล้วกว่า 1.6 ล้านคน โดยนิยมเดินทางด้วยตนเอง (FIT) ถึงร้อยละ 76 และกรุ๊ปทัวร์ร้อยละ 24 ซึ่งในสัดส่วนนี้เป็นกลุ่ม First Visit ถึงร้อยละ 62 ชาวอินเดียนิยมเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ ทำธุรกิจ และฉลองแต่งงานหรือครบรอบแต่งงาน โดยมีกรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และพังงา เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมและเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของชาวอินเดีย และเดือนธันวาคมของทุกปี จะเป็นช่วง Peak Season ของตลาดอินเดียที่มีการเดินทางจากเมืองรองของรัฐทางตอนเหนือเข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม Family, Millennials, Health & Wellness, Wedding & Honeymoon, Golf รวมทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพใหม่ เช่น Women Travelers, Senior Citizen, Celebrations, Self-Drive, Rejuvenating และ Adventure

ไม่เพียงเท่านั้น ตลาดอินเดียยังมีปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวหลายประการ อาทิ การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียที่ขยายตัวถึงร้อยละ 5.9 อัตราการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวร้อยละ 74 และ Seat Resumption ตลอดทั้งปี 2567 คาดว่าอยู่ที่ 2.8 ล้านที่นั่ง ฟื้นตัวกว่าร้อยละ 90.64 ของปี 2562  รวมทั้งนโยบายส่งเสริมให้พลเมืองออกเดินทางของรัฐบาลอินเดีย โดยมีแรงส่งจากโอกาสด้านการบินที่มีแนวโน้มสดใส และมีการเปิดเที่ยวบินใหม่ในหลายสายการบิน ได้แก่ สายการบิน Indigo เส้นทาง Hyderabad-Bangkok โดยจะทำการบินทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน สายการบินไทย เส้นทาง Cochin-Bangkok ทำการบินทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ รวม 5 วัน วันละ 1 เที่ยวบิน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทาง Vishakhapatnam-Bangkok ให้บริการทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ นอกจากนี้ การยกเว้นการตรวจลงตราให้นักท่องเที่ยวอินเดีย รวมไปถึงความสะดวกในการเดินทางที่ใช้เวลาเดินทางมายังประเทศไทยเพียง 2-4 ชั่วโมง และภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ คุ้มค่า ที่ชาวอินเดียชื่นชอบ ทำให้ ททท. เชื่อมั่นว่าจะสามารถพิชิตเป้าหมายตลาดอินเดียในปี 2567 ตามที่ตั้งไว้ อยู่ที่ 2 ล้านคน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 69,840 ล้านบาท

แสดงผล 230 ครั้ง