รมว.กก. มอบนโยบายเร่งปั๊มนักท่องเที่ยวตลาดยุโรป สู่ตลาด 7 digits ด้วยแนวคิด The New Discover in Thailand
วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2566) ณ ห้องประชุม โรงแรม Royal Lancaster กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานการประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง เพื่อมอบนโยบายและทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว พร้อมรับฟังรายงานสถานการณ์นักท่องเที่ยวในตลาดยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ชูแนวคิด The New Discover in Thailand เร่งสร้างรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวสู่เป้าหมายปี 2567 ร่วมโดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. และผู้บริหาร ททท. ก่อนร่วมงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก World Travel Market 2023 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ในวันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน 2566
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวมอบนโยบายการดำเนินงานปี 2567 แก่สำนักงาน ททท. ภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ณ โรงแรม Royal Lancaster London กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 โดยเสนอแนวคิด The New Discover in Thailand ในการส่งเสริมตลาดต่างประเทศปี 2567 ประกอบด้วย New Segment การเจาะกลุ่มตลาดศักยภาพใหม่ อาทิ กลุ่ม Wellness กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม กลุ่ม Millennials New Product สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ที่เน้นการให้ความสำคัญกับการดูแลลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เส้นทางการท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน New Partnership การแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว New Image ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย (Meaningful Relationship) และความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน New Area การขยายตลาดสู่พื้นที่ศักยภาพใหม่ เช่น สก็อตแลนด์ ตลาดยุโรปตะวันออก ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายสำหรับการดำเนินงานปี 2567 แก่สำนักงาน ททท. ภูมิภาคยุโรปฯ เพื่อเป้าหมายในการเร่งกระตุ้นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้กลับมาเท่ากับปี พ.ศ.2562 ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลในการเพิ่มมาตรการการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (Ease of Traveling) แก่นักท่องเที่ยวจากตลาดต่างๆ ตาม 6 แนวทาง ประกอบด้วย 1) ผลักดันการฟื้นคืนกลับมาของเที่ยวบิน (Flight Resumption) เน้นการทำงานร่วมกับสายการบินพันธมิตรทั้ง Direct Flight และ Indirect Flight รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับ Charter Flight จากเมืองใหม่ๆในสแกนดิเนเวีย และยุโรปตะวันออก เข้าสู่ประเทศไทยด้วย 2) บูรณาการการทำงานร่วมกัน ของ 7 สำนักงานในภูมิภาคยุโรปฯ เพื่อผลิตเป็น Regionwide Project เป็น Marketing and Sale เพื่อเร่งการขายคู่ขนานไปกับ Marketing Communication 3) ทำการตลาดในกลุ่มคุณภาพและมีศักยภาพในการใช้จ่าย เช่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางครั้งแรก (First-time Visitor) ,Young Gen, LGBT, Couple เป็นต้น 4) ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsible Tourism รวมถึง Green Tourism อย่างต่อเนื่อง 5) ใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมตลาด สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าของ Soft Power ทั้ง 5F ได้แก่ อาหารไทย แฟชั่น งานเทศกาล มวยไทย และภาพยนตร์ไทย 6) สร้าง New Approach ด้วยสินค้าบริการท่องเที่ยวใหม่ๆ ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่น นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคเหนือและอีสานในกลุ่มตลาดอิตาลี สเปน และฝรั่งเศส เป็นต้น
ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นตลาดศักยภาพที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยทั้งหมด และเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีวันพำนักยาวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18.55 คืน และค่าใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูงกว่า 66,000 บาทต่อทริปในปี 2566 โดย ททท. เร่งขับเคลื่อนการส่งเสริมตลาดยุโรปสู่เป้าหมายรายได้กว่า 500,000 ล้านบาทในปี 2567
แสดงผล 762 ครั้ง